
ซึ่งก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะนำตัว นายสน หุมเพียง ไปฝากขังที่ศาลได้นำรูปของเด็กหญิงวัย 14 ปี ให้นายสน หุมเพียง ได้กราบขอขมาต่อหน้ารูป โดยนายสนกล่าวว่า “ขอโทษและยอมรับผิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และยอมรับทุกข้อกล่าวหา พร้อมกับหลั่งน้ำตาสำนึกผิดต่อหน้ารูปถ่ายของ ด.ญ.วัย 14 ปี ที่พลั้งมือทำเสียชีวิต” หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำตัว นายสนไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพิษณุโลกและหลังจากนี้จะได้ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้ง 4 ข้อหา ประกอบด้วย 1.ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดอื่นของตน หรือเพื่อหลีกเลี่ยงให้พ้นความผิดอาญา 2.ข่มขืนกระทำชำเราเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยขู่เข็ญด้วยประการใดๆ โดยใช้กำลังประทุษร้ายโดยเด็กนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ เป็นเหตุให้เด็กนั้นถึงแก่ความตาย 3.บุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้อื่นโดยใช้กำลังประทุษร้าย 4.ลักทรัพย์ในเคหะสถาน

ทางด้าน พล.ต.ต.อดิศักดิ์ น้อยประเสริฐ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพิษณุโลก ได้กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 6 ได้เข้าไปตรวจหลักฐานเพิ่มเติมและสามารถค้นหา เชือกที่ใช้ก่อเหตุรัดคอได้ พร้อมโน้ตบุ๊คของเด็กหญิงและยังพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ลูกซองสั้นได้ ทำให้สำนวนคดีมีความรัดกุมมากขึ้น ในส่วนการที่นำนายสน ให้ขอขมาต่อหน้ารูป ด.ญ. 14 เพื่อเป็นการลดกระแสมวลชน และเป็นการทำตามความต้องการของประชาชน จำเป็นต้องให้ทำพิธีขอขมาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองพิษณุโลกแทน เพราะถ้าไปยังบ้านผู้เสียชีวิตเกรงว่าจะเกิดความรุนแรงและทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่สามารถควบคุมได้ และหากเกิดปัญหามวลชนขึ้นมาก็อาจจะเสียภาพลักษณ์ของสภ.นครไทยได้

