
พี่บิณฑ์คะ ขอความเห็นใจ ได้โปรดเข้ามาช่วยเหลือน้องเค้าด้วยนะคะ พอดีหนูทำงานอยู่ใน รพ.แห่งหนึ่งและได้เจอกับน้องเค้า น้องชื่อ น.ส รัตติการ อินควรชุม อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 102 ม.6 ต.สี่ขีด อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช จากการสอบถามข้อมูล ทราบว่า น้องเค้าโดนพ่อแม่ทิ้งให้อยู่กับตา ยาย ตั้งแต่เด็กๆ และตอนน้องเค้าอายุได้ 1ขวบ น้องเค้าได้เกิดอุบัติเหตุโดนรถชน เลยทำให้น้องเค้าพิการตั้งแต่สะเอวลงไป ตากับยายมีอาชีพหาผักขาย รายได้จากการหาผักและเงินเบี้ยเลี้ยงชีพผู้สูงอายุของตาและยายไม่เพียงพอต่อการใช้จ่าย เงินคนพิการของน้องเค้าก็ติดบัญชีแม่ของน้อง แม่ของน้องก็ไปเบิกเอามาจ่ายโดยที่ไม่เคยกลับมาหยิบยื่นเงินหรือกลับมาเหลียวดูตายายและน้องเค้าเลย หนูเข้าไปถามยายว่าทำไมยายไม่ไปบอก เจ้าหน้าที่ อบต.ให้เขาเปลี่ยนชื่อมาติดบัญชีน้องเค้าหรือไม่ก็บัญชียาย แต่ยายกลับบอกว่า ทางเจ้าหน้าที่ อบต. บอกว่าให้พาแม่น้องเค้ามาเช็นต์ย้าย ถ้าไม่อย่างนั้นก็ทำไม่ได้ ยายบอกว่าแม่ของน้องเค้าออกจากบ้านไปไม่เคยกลับมาเหลียวดูเลย ตอนนี้น้องเค้าอายุได้ 18 ปีแล้ว
น้องเค้าพิการเลยทำให้เกิดแผลกดทับเลยเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และยายยังเล่าให้ฟังว่า เวลาที่ยายพาน้องเค้าเข้ามารับการรักษา พอหมอให้กลับบ้านไป จะมีค่ารักษานอกเหนือ ยายต้องจ่ายค่ารักษา เช่น ค่าชุดทำแผล ประมาณ 300 บาท แต่ยายไม่มีเงินจ่าย พอมารักษาครั้งต่อไปทาง รพ.ก็จะเรียกเก็บเงินถึงเวลาที่ต้องจ่ายแล้ว ยายเลยต้องไปหยิบยืมเงินของเพื่อนบ้านมาจ่าย ขณะนอน รพ. ยายไม่มีเงินกินข้าว แต่ทาง รพ.จะมีข้าวแจกให้ผู้ป่วย แต่ยายเป็นญาติผู้ป่วยเขาเลยไม่แจก พอดีหนูทำงานอยู่ใน รพ. แห่งนี้ หนูเลยได้ไปบอกกับเจ้าหน้าที่ที่แจกอาหารให้กับผู้ป่วย ว่าสำหรับผู้ป่วยเตียงที่น้องเค้าอยู่ ขอเพิ่มเป็นสองชุด เพื่อให้ยายมีอาหารทานในแต่ละมื้อด้วย หนูก็ช่วย ยายและน้องเค้าได้เพียงแค่นี้แหละคะ ส่วนที่เหลือขอความเห็นใจจากพี่บิณฑ์ ด้วยนะคะ สุดท้ายนี้หนูหวังว่าน้องเค้าจะได้รับการช่วยเหลือ ด้วยความเคารพและนับถือ
ข้าพเจ้า นางสาววิลาวัลย์ มณีโชติ ขอยืนยันว่าข้อความข้างต้นเป็นความจริงทุกประการ